วันพฤหัสบดีที่ 3 มกราคม พ.ศ. 2556

>> ร่วมกันคิด เพื่อเปลี่ยนรองรับ AEC.


โดย...สบเกษม แหงมงาม
ผู้ตรวจภาคประชาชน ด้านเศรษฐกิจ สำนักนายกรัฐมนตรี

ผู้ตรวจกระทรวงพานิชย์ กับหน่วยงานภาครัฐ เอกชนตาก พบปะเรื่องเศรษฐกิจ การค้าตากในงานวิจัยเราคาดการณ์อนาคตไว้สามภาค คือภาคเทพธิดาดอย หน่อไม้ จิ้มน้ำปู สังคมตากจะอยู่ร่วมกับประชาคมอาเซียนได้ง่ายสงบ มีการติดต่อสื่อสารได้ดี และภาคที่สองเกาเหลาไม่งอก คือสังคมยังเป็นอย่างนี้ไปเรื่อยๆ การเมืองใหญ่การเมืองท้องถิ่น สีเสื้อ มีการปะทะกันทางความคิด มีการเปลี่ยนขั้วอำนาจตลอดเวลา และภาคที่สาม ต้มยำกุ้งแม่น้ำเมย (ฝังหัวตะกั่ว)ในอนาคตสังคมไทยจะมีความหลากหลายในมิติความเร้นลับในปัจเจก สังคมตากไม่ใช่สังคมเปิดเผย มีความลับเยอะ ตั้งแต่แนวคิดตั้งจังหวัดแม่สอด คิดแล้วมึนสังคมแตกแยก  ตากเล็กอยู่แล้ว ตัดแบ่งตัวแบ่งเค้กจังหวัดตาก ให้มันเล็กลง ตาก ชื่อเป็นนามมงคล เมืองพระเจ้าตาก พระมหากษัตริย์ไทย ที่ทรงกู้ชาติกรุงศรีอยุธยา กู้เอกราชชาติไทย ไม่ควรจะแบ่งแยก และแตกความคิด
 บริเวณสี่แยกอาเชียน จุดตัดถนน AH 1 กับถนน AH 2 สี่แยกใกล้ศาลากลาง จ.ตาก ทำไม ? ไม่คิดให้ตาก ที่เป็นเมือง 4 แยกอาเชียน ที่เป็นจุดตัดระหว่างเส้นทางถนนเอเชีย 1 (AH 1) กับ ถนนเอเชีย 2 ( AH 2) ที่ตัว อ.เมือง จ.ตาก เชื่อมตะวันตก ตะวันออก และเชื่อมเหนือ-ใต้ แห่งเดียวของเมืองไทย ให้เป็นศูนย์กลางโลจิสติกส์ จุดกระจายสินค้า และศูนย์กลางส่งเสริมและพัฒนาในทุก ๆ ด้าน ให้เป็นจังหวัดที่ใหญ่ขึ้น รองรับประชาคมเศรษฐกิจอาเชียน ( AEC.)  ซึ่งในอดีตทำไมเราไม่หยิบยกเรื่องราวและภารกิจของคณะกรรมการพัฒนาภาคเหนือ โดย พลตำรวจตรี สง่า กิตติขจร ที่ได้ส่งเสริมและพัฒนาให้ตากเป็นศูนย์กลางพัฒนาภาคเหนือ มีสิ่งเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้นกับตาก ช่วงสมัย ฯพณฯ จอมพลถนอม กิตติขจร เป็นนายกรัฐมนตรี

หลังจากนั้น ตากกินบุญเก่าในการพัฒนาจังหวัดตาก  มีเพียง พณ ฯ อุดร ตันติสุนทร  อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย และ พณฯ รักษ์ ตันติสุนทร อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ และเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม มีผลงานปรากฏในเรื่องโครงสร้างพื้นฐานทางเศรษฐกิจ และสังคม อย่างเด่นชัด เช่นก่อสร้างสะพานมิตรภาพไทยพม่า วิทยาลัยชุมชน วิทยาลัยการอาชีพ ปรับปรุงและก่อสร้างถนน 4 ช่องจราจร และอื่น ๆ  ที่จับต้องได้ ส.ส.และรัฐมนตรีคนอื่น แย่งซีนผลงานของข้าราชการประจำ และภาคเอกชน  มีแต่ขึ้นป้ายผลงานคนอื่น ให้คนตาก ทราบโดยทั่วกัน และต้องยอมรับการขับเคลื่อนการพัฒนาตาก กลายเป็นภาครัฐและเอกชนไป

นิยม ไวยรัชพานิช รองประธานสภาหอการค้าไทย กับนักธุรกิจไทย-พม่า และภาครัฐสหภาพเมี้ยนมาร์
เรื่องการยกฐานะ เขตปกครองพิเศษนครแม่สอด และเมืองเศรษฐกิจพิเศษชายแดน   หอการค้าจังหวัดคิดอย่าง จังหวัดตาก (ภาคราชการ) คิดอย่าง และสภาอุตสาหกรรมจังหวัดคิดอย่าง  ส่วนภาคการเมือง (ส.ส.) ไม่คิดอะไรเลย ต้องยอมรับว่า ภาคเอกชน ภาคการเมือง อปท.คิดกันมานานนับ 10 ปี พึ่งปลื้มในสมัย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ประชุม ครม.สัญจร ที่โรงแรมเซ็นทรัลแม่สอดฮิลล์ อ.แม่สอด เมื่อปี 2547  และเห็นชอบให้ 3 อำเภอ แม่สอด แม่ระมาด พบพระเป็นเมืองเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน

หลังที่รัฐบาล พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกปฎิวัติยึดอำนาจ เมื่อปี 2549 และเขียนรัฐธรรมนูญ ฉบับ พ.ศ. 2550 ฉบับ คมช. 5-6 ปีที่ผ่านมา ภาคการเมืองอ่อนแอ แบ่งขั้ว แบ่งสี  สองมาตรฐาน  ตั้งรัฐบาลในค่ายทหาร อดีตนายกรัฐมนตรี เหยียบเงาตัวเอง คำพูดที่พูดไว้ก่อนหน้านี้ เหมือนขว้างงู ไม่พ้นคอ องค์กรภาคประชาชน สื่อมวลชน(บางค่าย)  เห็นชอบกับการรัฐประหาร หลงอำนาจ อยากเข้ามารัฐบาล ทั้งที่มีผลงานไม่เข้าตาประชาชน และประชาชนได้ตัดสินในการเลือกตั้ง เมื่อ 3 กรกฎาคม 2554 แล้ว

การเมืองท้องถิ่นตาก กระแสเปลี่ยนผู้บริหารองค์กรปกครองท้องถิ่น แรงมาก ที่คนตากล้มขั้วการเมืองเทศบาลเมืองตาก และองค์กรบริหารส่วนจังหวัดตาก ทำให้ จ.ส.ต.สมชาติ เพ็ชรประเสริฐ นายกเทศมนตรีเมืองตาก และชิงชัย ก่อประภากิจ แพ้แบบหมดรูป ปัจจัยที่ชนะคนตาก อยากเปลี่ยน ไม่ใช่ปัจจัยอื่น แห่งความศรัทธา และกระสุน  ผู้บริหารที่เข้ามาใหม่อย่าง อานนท์ ทวีเกื้อกูลกิจ นายกเทศมนตรีเมืองตาก และ ณัฐวุฒิ ทวีเกื้อกูลกิจ นายก อบจ.ตาก ต้องฟังเสียงชาวบ้าน และลงไปสัมผัสชาวบ้าน อย่าไปโทษคนเก่า สร้างหนี้ไว้ให้ ไม่มีเงินพัฒนา และที่สำคัญ ต้องไว้ใจคน และให้เกียรติคน กระจายอำนาจให้อย่างทั่วถึง งานการพัฒนาเมืองตาก ถึงจะเดินไปได้

เรื่องนี้ขอให้เป็นภาพรวมของผู้บริหารท้องถิ่น และสมาชิกสภาท้องถิ่น หลายแห่งได้ผู้บริหารท้องถิ่น  ส.ท. ส.อบต. และ ส.อบจ.ตาก ได้คนเก่ง คนดี  คนซื่อสัตย์ มีจิตสาธารณะทำงานเพื่อสังคม ถือเป็นโชคดี ส่วนเราได้นักการเมืองใจแคบ หลงอำนาจ มาตรฐานความเชื่อถือต่ำ มาตรฐานเป็นผู้นำทางความคิด และผลงานไม่ประจักษ์เป็นที่ยอมรับของสังคม ถือเป็นโชตร้าย ถือเป็นบทเรียน ที่ต้องปรับเปลี่ยน สังคม และสื่อมวลชนต้องรวมตัวกัน ทำความจริงให้ปรากฎ

ปี 2556 นักการเมืองทุกคน ที่เป็นความหวังของคนเมืองตาก ต้องสร้างความคิดใหม่ ทำงานตามที่บอกกับชาวบ้าน ตามที่เขียนไว้นโยบาย ช่วงการหาเสียงเลือกตั้ง ให้เกียรติข้าราชการ พนักงานส่วนท้องถิ่น และให้เกียรติชาวบ้าน และพวกพ้องพ้อง ประเภทนินทา บอกว่าคนโน้นไม่ดี อยู่ที่การปฎิบัติและพฤติกรรม และสังคมสามารถตรวจสอบได้ เนื่องจากความลับไม่มีในโลก

ตากของเรานี้ ฉีดวัคซีนให้คนน้อยมาก เมื่อฉีดวัคซีนน้อยก็แน่นอน ภูมิต้านทานมันไม่มี มันก็อ่อนแอ เพราะฉะนั้นอะไรก็ได้ทั้งนั้นเลย การเมืองยังไงก็ได้ โกงกินยังไงก็ได้ ขอให้มีผลงานนิดหน่อย ถ้าปล่อยไปแบบนี้เรื่อยๆ มันก็เหมือนปลวกที่แทะกินบ้านเรือน ทำให้สังคมง่อนแง่น ในที่สุดก็จะล้มได้ มันจะล้มไปทางไหนก็แล้วแต่ แต่ว่ามันทำให้อ่อนแอมากขึ้นทุกที น่ากลัว

ผมคิดว่าคนตาก ต้องดูอดีตด้วย แล้วดูคนอื่นด้วย ดูพร้อมกันสองอย่าง ว่าอดีตเขาเคยทำ ไว้ดียังไง หรือว่าทำไม่ดี ยังไงก็อย่าไปทำตามสิ ก่อนหน้านี้  วิพากษ์วิจารย์เขา ไม่ดีอย่างโน้น อย่างนี้ ก็อย่าปฎิบัติ “เงินทอน” อย่าคิด ไม่ใช่เขาเรียกร้องร้อยละ 20 เราเรียกร้อยละ 25 มันจะสะท้อนกลับ เสียชื่อเสียงวงศ์ตระกูล ทำดีมีชื่อเสียงมา 20-30 ปี สลายไปเพียงเสี้ยววินาที รวมทั้งเสร็จนา ฆ่าโคถึกเสร็จศึก ฆ่าขุนพล ซี่งคนเป็นผู้นำ แค่คิด ก็หมดเพื่อนพ้อง น้อง พี่ และผลักมิตรเป็นศัตรู ไม่เป็นประโยชน์อะไร สู้เอาศัตรูเป็นมิตรของผู้คนชาญฉลาดไม่ได้

เราหวังว่าคนตาก จะเรียนรู้มากขึ้น และเข้าใจมากขึ้นกับสิ่งที่เกิดขึ้น คุณจะเป็นคนดีแต่นั่งอยู่เฉยๆ ไม่ได้แล้ว คุณต้องกล้าเจ็บตัวออกมาพูดบ้าง แสดงจุดยืนเป็นตัวอย่างให้สังคม เราต้องเชื่อมั่นว่า ทุกคนจะเปลี่ยนตาก ให้ดีขึ้นได้ !!...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น