วันพฤหัสบดีที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

>> "บุญคลี ปลั่งศิริ" เปลือยหมดเปลือก จากกุนซือ"ทักษิณ" สู่ "พี่เลี้ยง"ทายาทเจ้าสัว"เจริญ"

โดยส่วนตัวกระหายความคิดจากนักคิด นักปฏิบัติ แถวหน้าของประเทศไทย ตะลุยค้นคว้า คิดตามความคิดของคนเหล่านี้ เพราะอยากรู้ว่าเขาคิดอะไร คิดอย่างไร ในเรื่องนั้นๆ เยอะแยะไปหมด แต่ก็เลือกที่จะสนใจ เพราะนักคิดหลายคนก็ก็อปปี้ฝรั่งมาทั้งดุ้น นักคิดแถวหน้าหลายคนก็นำเอาแนวความคิดกูรูฝรั่งมาปรับใช้กับสภาพแวดล้อมที่เป็นจริงของสังคมไทยอย่างเป็นผลสำเร็จ

พอดีเจอการแสดงความคิดของ "บุญคลี  ปลั่งศิริ" ดีใจมาก อดไม่ได้ที่จะบันทึกไว้ตรงนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนพ้องน้องพี่ไม่ได้ จะให้อ่านตัวหนังสือก็จะยาวเกินไป ลองฟังกันดู

ในโอกาสต่อไปคิดว่าจะนำเสนอความคิดของคนที่น่าสนใจ ซึ่่งในคลังข้อมูลส่วนตัวมีเยอะแยะไปหมด แต่รับรองได้ว่าไม่ได้เป็นคนที่อ่านตำราฝรั่งล้วนๆ แล้วมาเล่าให้เราฟัง

ที่มา : http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1336638474&grpid=01&catid=&subcatid=
วันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2555 เวลา 16:15:19 น.


หากเอ่ยถึง "บุญคลี  ปลั่งศิริ "อดีตประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ชิน คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) อดีตผู้บริหาร สถานีโทรทัศน์ไอทีวี, แอร์เอเชีย, Capital OK, Shinee.com และอื่นๆ อีกมากมาย

ผู้คนในหลายแวดวงย่อมรู้จักกันดีถึงฝีมือในการบริหารงานของซีอีโอคนนี้

"บุญคลี"ถือเป็นหนึ่งในอดีตขุนพลคู่ใจหรือกุนซือของอดีตนายกรัฐมนตรี"ทักษิณ ชินวัตร"

ความเก่งกาจอย่างหาตัวจับยาก ทำให้"เสี่ยเจริญ"ทาบทามให้มารับตำแหน่ง"ที่ปรึกษา"ในเบอร์ลี่ยุคเกอร์ และหน้าที่หลักอย่างหนึ่งคือการถ่ายทอดวิชาให้กับ "อัศวิน  เตชะเจริญวิกุล"เขยเล็กแห่งตระกูล "สิริวัฒนภักดี"  เพื่อรับมือกับตำแหน่งซีอีโอตั้งแต่อายุประมาณ 28 ปี

กว่า20 ปีในแวดวงธุรกิจ ในอาชีพ"มือปืนรับจ้าง"ซึ่งเปรียบเสมือนมนุษย์พันธุ์หนึ่ง

ที่ต้องพานพบกับ "เจ้าของกิจการ" ซึ่งเปรียบเสมือนมนุษย์ต่างสายพันธุ์กัน

เมื่อวงโคจรของโลกทำให้คน 2 พันธุ์ !! ที่ไม่เหมือนกัน ต้องมาทำงานร่วมกัน อะไรจะเกิดขึ้น ??

เปิดแนวคิดบริหารอย่างมืออาชีพ 1/3

สัจจะธรรมที่"บุญคลี่" มองต่างมุมกับหลายสถาบันการศึกษาในปัจจุบันที่พยายามผลักดัน อยากให้"เจ้าของธุรกิจ"ขึ้นมาเป็น"ผู้บริหารกิจการ" ว่า "เป็นไปไม่ได้"

"องค์กรที่มีเจ้าของอย่างเดียวเติบโตไปได้เพียงจุดหนึ่งเท่านั้น ขณะที่องค์กรที่มีแต่มืออาชีพอย่างเดียวไม่มีเจ้าของก็เติบโตได้ช้า แต่คน 2 พันธุ์นี้ต้องอยู่ด้วยกัน"

การทำงานกับธุรกิจที่มีเจ้าของมีอะไรนอกระบบอยู่เรื่อย เด็กรุ่นใหม่ อาจไม่ชอบไม่มีระบบ ไม่มีขั้นตอน ความไม่มีระบบ ทำให้ค่าตอบแทนไม่มีระบบด้วย มันมีอะไรตื่นเต้นที่ผมชอบสิ่งเหล่านี้

"เจ้าของ"ต้องการ"หลงจู๊" แต่ต้องเป็น"หลงจู๊"ที่อินเตอร์เนเชั่นแนล ต้องพัฒนา

ที่สำคัญ"บุญคลี"วิเคราะห์ว่า ความสัมพันธ์เจ้าของและผู้บริหารมืออาชีพเป็นความสัมพันธ์ที่ลี้ลับ ไม่เคยออกมาพูดเปิดเผย ไม่เคยออกมาพูดกันบนโต๊ะ เห็นชัดว่า เราเป็นอย่างไร และไม่เคยถูกแชร์ข้ามไปสู่องค์กรหนึ่งสู่อีกองค์กรหนึ่ง

"ถ้าผมเป็นมืออาชีพ ผมทำงานกับเจ้าของ ผมมีปัญหา ผมจะเก็บไว้เป็นความลับ ผมไม่กล้าไปแชร์กับคนอื่น ขณะที่เจ้าของกิจการอาจจะแชร์กัน แต่มืออาชีพไม่แชร์"

สิ่งเหล่านี้ไม่ได้รับการพัฒนา ไม่มีเคยศึกษาว่า รูปแบบความสัมพันธ์ลักษณะนี้มีกี่รูปแบบ และรูปแบบใด น่าจะนำไปสู่ความสำเร็จมากที่สุด และเหมาะสมกับสังคมไทยมากที่สุด

ความสัมพันธ์นี้ต้องถูกพัฒนา และยกระดับความสัมพันธุ์นี้ขึ้นมาให้ความสัมพันธ์นี้เติบโตและสอดคล้องไปกับธุรกิจ

และถ้าความสัมพันธ์ของ 2 ฝ่ายนี้ ไปได้และสอดคล้องไปกับการพัฒนาการของธุรกิจจะเติบโตอย่างยั่งยืน

แต่วันนี้"บุญคลี"จะมาเปิดหมดเปลือก ถอดบทเรียน เพื่อสะท้อนให้เห็นบทบาทของมือปืนรับจ้าง ทำอย่างไรจึงจะประสบความสำเร็จและผงาดได้อย่างเช่นซีอีโอคนเก่งในวันนี้

เปิดแนวคิดบริหารอย่างมืออาชีพ 2/3


และหากใครอยากทราบว่า มือปืนรับจ้างมีกี่ประเภท และเจ้าของกิจการมีกี่สายพันธุ์ โปรดติตามตอนต่อไป ที่นี่!!

เปิดแนวคิดบริหารอย่างมืออาชีพ 3/3



Re-Present : A Hose With No Name.
แสดงความคิดเห็นเพิ่มเติม คลิก "ความคิดเห็น" ด้านล่างนี้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น