วันนี้ (14 มิ.ย.2555) ที่บริเวณสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว กระทรวงคมนาคม ราชอาณาจักรไทย ร่วมกับกระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ราชอาณาจักรกัมพูชา ได้จัดทำพิธีเปิดเดินรถขนส่งระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา เพื่อรองรับการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ในปี 2558 โดยมีนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.กระทรวงคมนาคม นายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้วของไทย และนายตรัม อีพเต็ก รมว.กระทรวงโยธาธิการและการขนส่ง ,นายอง เอือน ผวจ.บันเตียเมียนเจยของประเทศกัมพูชา พร้อมด้วยมิสเตอร์เคล็ก สตีเวนสัน ผอ.สำนักงานธนาคารพัฒนาเอเชีย ประจำประเทศไทย และ มิสเตอร์ปีเตอร์ เจ บริมเบิล รอง ผอ.สำนักงานธนาคารพัฒนาเอเชีย ประจำประเทศกัมพูชา เข้าร่วมในพิธีเปิด ณ.กลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก-ปอยเปต อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว โดยมีข้าราชการ ทหาร ตำรวจ พ่อค้า ประชาชนทั้งสองประเทศจำนวนมากเข้าร่วมในพิธีเปิดเดินรถขนส่งระหว่างประเทศ ไทย-กัมพูชาในครั้งนี้ โอกาสนี้รัฐมนตรีของทั้งสองประเทศ ร่วมกันทำพิธีตัดริบบิ้น ปล่อยขบวนรถโดยสาร-รถบรรทุกสินค้า บริเวณกลางสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา ท่ามกลางสื่อมวลชนทั้งไทย-กัมพูชา และต่างประเทศ ให้ความสนใจมาทำข่าวกันเป็นจำนวนมาก
ต่อมานายจุฬา สุขมานพ ผู้ตรวจราชการกระทรวงคมนาคม ราชอาณาจักรไทย กล่าวถึงความเป็นมาของโครงการว่า ประเทศไทยและกัมพูชาได้ลงนามร่วมกันในบันทึกความเข้าใจเกี่ยวกับการเริ่มใช้ความตกลงว่าด้วยการขนส่งข้ามพรมแดนในอนุภูมิภาคลุ่มน้ำโขง ที่จุดผ่านแดนอรัญประเทศ-ปอยเปต โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออำนวยความสะดวกให้ประเทศไทยและกัมพูชา สามารถขนส่งสินค้าและผู้โดยสารได้อย่างเป็นระบบ ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อการส่งเสริมการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น โดยทั้งสองฝ่ายเห็นชอบให้กำหนดจำนวนหนังสืออนุญาตขนส่งข้ามแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ที่จุดผ่านแดนอรัญประเทศ-ปอยเปต ได้วันละไม่เกิน 40 ฉบับหรือ 40 คันต่อวัน โดยกำหนดเส้นทางเดินรถของไทยไว้ 2 เส้นทาง คือ เส้นทางกรุงเทพฯ-กบินทร์บุรี-สระแก้ว-อรัญประเทศ และเส้นทาง กรุงเทพฯ-แหลมฉบัง-พนมสารคาม-กบินทร์บุรี-สระแก้ว-อรัญประเทศ ส่วนของประเทศกัมพูชา คือเส้นทาง ปอยเปต-ศรีโสภณ-เปอสาต-พนมเปญ-นากหลวง-บาเวต โดยระยะเริ่มต้นของการดำเนินการให้ใช้โควต้าประเทศละ 40 คัน โดยประเทศไทย จะมีรถบัสโดยสารจำนวน 10 คัน และรถขนส่งสินค้าจำนวน 30 คัน ส่วนของกัมพูชาจะใช้โควตา รถบัสโดยสารจำนวน 30 คัน และรถขนส่งสินค้าจำนวน 10 คัน
ด้านนายศานิตย์ นาคสุขศรี ผวจ.สระแก้ว เผยว่าการเปิดเส้นทางเดินรถขนส่งระหว่างประเทศ ไทย-กัมพูชาในวันนี้ ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีสำหรับประเทศไทยและประเทศกัมพูชา ที่จะสามารถเดินรถขนส่งสินค้าและรถโดยสารข้ามพรมแดนของแต่ละประเทศได้ โดยไม่ต้องผ่านพิธีการขั้นตอนมากมายเหมือนที่ผ่านมา ซึ่งจะทำให้ทั้งสินค้าและการบริการมีค่าใช้จ่ายลดลง จะทำให้คนไทยและคนกัมพูชา สามารถซื้อสินค้าและการบริการรถโดยสารมีราคาถูกลง ส่วนปัญหาการเดินรถข้ามแดนนั้นถือว่ายังอยู่ในขั้นการทดลองวิ่ง ซึ่งแต่ละประเทศก็จะมีกฎหมายจราจรของแต่ละประเทศ ซึ่งทั้งสองฝ่ายจะต้องปรับระบบของกฎหมายให้เข้ากันและทำตามกฎหมายของแต่ละประเทศ แต่ในอนาคตจะมีการเปิดเส้นทางรถยนต์โดยสารระหว่างประเทศขึ้นจะทำให้การสัญจรไป-มา ของประชาชนทั้งสองประเทศสะดวกมากขึ้น
นายศานิตย์ฯ ยังเปิดเผยอีกว่าทางจังหวัดสระแก้ว จะได้ระดมความคิดเห็นจากผู้ประกอบการท่องเที่ยวภายในจังหวัดสระแก้ว เพื่อให้การสนับสนุนผู้ประกอบการเปิดเส้นทางท่องเที่ยวในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายเป็นนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชาและชาวเวียตนาม ซึ่งถือเป็นการเปิดประตูการท่องเที่ยวของประชาคมอาเซียนในอนาคตต่อไป
ข้อมูลข่าวและที่มา
ผู้สื่อข่าว : สระแก้ว (ส.ปชส.) / ดุลยศักดิ์ ไชยรัตน์ Rewriter : สุริยน ตันตราจิณ / สนข.
สำนักข่าวแห่งชาติ กรมประชาสัมพันธ์ : http://thainews.prd.go.th
*************************
ศรีสะเกษ-เขมรประชุมเตรียมเปิดเดินรถขนส่งไทย-กัมพูชา
วันอังคาร ที่ 05 มิ.ย. 2555
ศรีสะเกษ 5 มิ.ย. - ผู้ว่าราชการ จ.ศรีสะเกษ และผู้แทน 8 จังหวัดของกัมพูชา ประชุมเตรียมการเปิดเดินรถขนส่งระหว่างไทย-กัมพูชา เริ่มวันนี้ 14 มิ.ย.นี้ เริ่มฝ่ายละ 40 คัน อนาคตหากได้รับความสนใจจะเพิ่มฝ่ายละ 150 คัน เพื่อสร้างเศรษฐกิจตามแนวชายแดนไทย - กัมพูชา
วันนี้ นายประทีป กีรติเรขา ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ประชุมคณะอนุกรรม การความร่วมมือเศรษฐกิจกับประเทศเพื่อนบ้านด้านกัมพูชาสัญจรร่วมกับนายพนะ อิงวร รองผู้ว่าราชการ จ.อุดรมีชัย และตัวแทนจาก 8 จังหวัดในประเทศกัมพูชา นายประทีป กล่าวว่า การประชุมครั้งนี้เพื่อเตรียมการพิธีเปิดการเดินรถขนส่งระหว่างประเทศไทย-กัมพูชา ในวันที่ 14 มิ.ย.นี้ ที่จุดผ่ายชายแดนอรัญประเทศปอยเปต จังหวัดสระแก้ว โดยฝ่ายไทย 40 คัน ฝ่ายกัมพูชา 40 คัน หากทุกอย่างเป็นไปได้ดี อาจจะมีการเพิ่มขึ้นฝ่ายละ 150 คัน คาดว่าจะได้รับความสนใจในการเดินทางจากนักท่องเที่ยว ที่ต้องการเดินทางชมวัฒนธรรมทั้งของประเทศไทย และกัมพูชา นอกจากนี้ ยังหารือปัญหาเรื่องอุปสรรคระหว่างธุรกิจระหว่างประเทศทั้งด้านการค้า การลงทุน โลจิสติกส์ การท่องเที่ยว และความร่วมมือในการจัดกิจกรรมระหว่างภาครัฐ และภาคเอกชนของไทย และกัมพูชา
ด้านนายพนะ กล่าวว่า การเปิดเดินรถเชื่อมกันระหว่าง 2 ประเทศ นอกจากจะเป็นการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ประเทศแล้ว ยังเป็นการเพิ่มเม็ดเงินเข้าสู่ประเทศอีกด้วย ซึ่งที่ผ่านมาการขนส่งสินค้าระหว่าง 2 ประเทศ เป็นลักษณะของการขนส่งตามแนวชายแดนเท่านั้น ซึ่งไม่สามารถขนส่งภายในประเทศได้ แต่ในการเปิดการเดินรถร่วมกันในครั้งนี้ ทั้ง 2 ฝ่ายสามารถที่เดินรถรับ-ส่งสินค้า ถึงสถานที่ขนส่งสินค้าได้อย่างสะดวก.- สำนักข่าวไทย
*************************
ค้าขายกัน อยู่ร่วมกัน ก็อย่าไปดูหมิ่นเหยียดหยามเขาก็แล้วกัน เขาก็คนเหมือนกันแตกต่างเพราะคำว่า "ชาติ" ที่สมมุติกันขึ้นมา....
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น