วันพุธที่ 25 กรกฎาคม พ.ศ. 2555

>> จับแล้ว "ต้นทาง" ผู้ผลิตปุ๋ยปลอม ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ลุยเอง

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงเกษตรฯ ปฏิบัติราชการในพื้นที่ตามโครงการ "เจอปลอมจับจริง" 
๒๔ กรกฎาคม ๒๕๕๕ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.กระทรวงเกษตรฯ เข้าตรวจค้นร้านมงคล ทรัพย์สกุล เลขที่ 36 หมู่ 4 ถนนตลิ่งชัน-สุพรรณบุรี ต.เทพมงคล อ.บางซ้าย จ.พระนครศรีอยุธยา หลังสืบทราบว่ามีการผลิตและจำหน่ายปุ๋ยยูเรียเสื่อมคุณภาพไม่ได้มาตราฐานเข้ายึดและอายัดกว่า 6,500 ตันมูลค่า 300 กว่าล้านบาท ข้อหา ฐานผลิตปุ๋ยเคมีเพื่อการค้าโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม ม.12, ม.57 แห่งพ.ร.บ.ปุ๋ย พ.ศ.2518 และฐานขายปุ๋ยเคมีเสื่อมคุณภาพ และฐานเป็นผู้รับใบอนุญาตขายปุ๋ยเคมีไม่ปฏิบัติตาม ม.22 โดยอายัดของกลางปุ๋ยเคมีจำนวนกว่า 6,500 ตัน 
และแล้วฝันที่รอคอยมานานก็เป็นจริง เสนอความคิดมานานในหลายเวทีว่า "ทำไมไม่ใช้อำนาจรัฐไปจัดการที่ต้นทางของปุ๋ย ยา" สารพัดจะอธิบาย ได้รับคำตอบเดิมๆ มาตลอด นโยบาย นายสั่ง เพื่อรักษาประโยชน์ของเกษตรกร ถูก ไม่เถียง แต่ที่จับตามอำเภอต่างๆ นี่ มันเป็นเพียงแค่ผู้ซื้อมาขาย เป็นคนกระจายสินค้าให้กับประเทศนี้ อำนาจรัฐก็บอกว่าต้องขอใบรับรองผลการตรวจสอบคุณภาพจากผู้ขายส่งปุ๋ย ยา ไอ้ใบรับรองก็เป็นภาษาอังกฤษ เป็นชื่อเคมี ถ่ายเอกสารกันมาหลายทอด และก็รับรองแค่ปุ๋ย ยาในล้อทที่ตรวจสอบเท่านั้น แล้วปุ๋ย ยา ที่มองเห็นเป็นตันๆ เอาลิ้นเลียก็ไม่รู้ว่าล้อทไหน จะชิมยาฆ่าหญ้าว่ามันเต็มเปอร์เซ็นต์หรือไม่ก็ไม่กล้าทำ 
ก็บอกมานานแล้ว ผู้ผลิตต้องใช้โรงงานใหญ่โตขนาดนี้ จะมองไม่เห็นเชียวหรือ ในโรงงานต้องมีการจ้างคนงานในพื้นที่ ขุดอุโมงค์อยู่ใต้ดิน คนก็ต้องรู้ "ผู้ใช้อำนาจรัฐตามกฎหมายปุ๋ย ยา" ก็ตอบได้แค่ว่า ทั้งประเทศมีเจ้าหน้าที่น้อย....ไล่จับพวกที่ขายตามอำเภออยู่นั่น โดนเย็นวันศุกร์ก็เรียบร้อยขอประกันตัวไม่ทัน นอนห้องขังไป
ขอบคุณท่านนัฐวุฒิ  ไสยเกื้อ ที่ใช้อำนาจรัฐไปจัดการที่ต้นทาง ขอภาวนาให้ท่านดำเนินการต่อไป จนกว่าแผ่นดินนี้จะหมดสิ้นปุ๋ย ยา ปลอม (ไม่เต็มเปอร์เซ็นต์ตามที่ระบุ) สังคมจะได้สงบสุขเสียที คนขายของ ก็คือคนขายของ ไม่ได้รู้และชำนาญไปทุกเรื่อง แค่เรื่องการตลาดก็เหนื่อยแล้ว ไหนจะเรื่องภาวะการเงินอีก ที่สำคัญคนขายของพวกนี้ทั่วประเทศ เป็นทำให้เกิดการกระจายสินค้า (ซื้อมาจากผู้ผลิต ตัวแทนจำหน่าย ฯลฯ) การขนส่งสินค้า ช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศนี้ ผู้ขายตามอำเภอเหล่านี้ไม่มีอำนาจไปจัดการที่ต้นทางแม้แต่จะคิด จะพูดบ้าง ไม่มีสิทธิ์อะไรทั้งสิ้น
พูดมาก็หลายปี ก็ไม่มีอะไรดีขึ้น ก็ทนๆ อยู่กันไป ไม่ซื้อมาขายก็ไม่ได้ ชาวบ้านเขารอ สุดท้ายเส้นทางเดินระหว่างเจ้าหน้าที่ของรัฐ กับผู้ขายเหล่านี้ ก็ต่างคนต่างเดิน ต่างคนต่างอยู่ พูดจา เกี่ยวข้องกันเท่าที่จำเป็น ทั้งที่รัฐผู้มีอำนาจในมือต้องอำนวยประโยชน์ให้คนไทยทุกหมู่เหล่า ทำให้ถูกใจเจ้านายกับทำให้ถูกใจประชาชน มันคนละทางกันเลย มันเป็นแผลในใจไปแล้ว พูดไปก็ติดลบ ! 






1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ระบุชื่อ26 กรกฎาคม 2555 เวลา 08:43

    น่าไล่จับตั้งนนาแล้วนะ
    จับตัวใหญ่ๆมั่ง
    มัวแต่มาไล่จับตัวเล็กๆ
    เซ็ง............

    ตอบลบ