updated: 08 ก.ค. 2555 เวลา 19:23:31 น.
ประชาชาติธุรกิจออนไลน์
ผู้สื่อข่าว "ประชาชาติธุรกิจ" รายงานการตัดสิทธิพิเศษอัตราภาษีศุลกากร(GSP-EU) ว่า สหภาพยุโรปได้ประกาศเปลี่ยนแปลงหลักเกณฑ์การให้สิทธิพิเศษ GSP ใหม่เมื่อต้นเดือนมิถุนายนที่ผ่านมา โดยมีสาระสำคัญจะ "ยกเลิก" การให้สิทธิพิเศษ GSP กับประเทศที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ระดับปานกลางขึ้นไป (Upper-Middle Income) ขึ้นไป ส่งผลให้ประเทศที่ได้รับสิทธิตามหลักเกณฑ์ใหม่จะลดลงเหลือเพียงไม่เกิน 80 ประเทศจากที่เคยได้รับสิทธิ์ทั้งหมด 176 ประเทศ
จะเสียภาษีนำเข้าในอัตราปกติ หรือ MFN เป็นจำนวนหลายร้อยรายการ
ใน ช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ (มกราคม-เมษายน 2555) ปรากฏ ประเทศไทยมีการใช้สิทธิพิเศษ GSP ส่งสินค้าไปยังสหภาพยุโรปคิดเป็นมูลค่า 2,869.45 ล้านเหรียญ หรือ ลดลงจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนที่มีมูลค่าส่งออก 3,111.37 ล้านเหรียญ
ส่งผลให้สัดส่วนการใช้สิทธิพิเศษลดลงเหลือร้อยละ 65.1 เมื่อเทียบกับการใช้สิทธิ์ในช่วงเดียวกันของปีก่อนที่สัดส่วนร้อยละ 66.54
อย่าง ไรก็ตามก่อนที่ประเทศไทยจะถูกตัดสิทธิพิเศษ GSP ทั้งหมดภายในปี 2558 นั้น ในระหว่างนี้มีรายงานเข้ามาว่า จะมีสินค้าไทยใน 4 กลุ่มหลักถูกสหภาพยุโรปสั่งระงับสิทธิพิเศษตามหลักเกณฑ์ Product Graduation หรือ มูลค่าส่งออกของประเทศผู้ได้รับสิทธิเกินกว่าร้อยละ 17.5 ของมูลค่าการนำเข้ารวมของสินค้ารายการนั้น โดยสินค้าทั้ง 4 กลุ่มได้แก่ พิกัด S-4a สัตว์น้ำแปรรูป, S-4b อาหารปรุงแต่ง, S-14 อัญมณี และเครื่องประดับ และ S-17b ยานยนต์อุปกรณ์/อากาศยาน
โดยมีข้อน่า สังเกตว่า รายการสินค้าไทยที่จะได้รับผลกระทบจากการตัดสิทธิพิเศษ GSP ตามเกณฑ์ Product Graduation จะประกอบไปด้วย
1)รถยนต์นั่ง/รถแวน/ปิ๊กอัพ อัตราภาษี GSP ร้อยละ 6.5 อัตราภาษีปรกติ (MFN) ร้อยละ 10
2)รถ จักรยานยนต์ GSP ร้อยละ 2.5-4.5 MFN ร้อยละ 6-8
3)ยางรถยนต์ GSP ร้อยละ MFN ร้อยละ 4-4.5
4)สิ่งทอ/เครื่องนุ่งห่ม GSP 6.4-9.6 MFN ร้อยละ 8-12
5)รองเท้า GSP ร้อยละ 11.9 MFN ร้อยละ 17
6)สับปะรดกระป๋อง GSP ร้อยละ 0 MFN ร้อยละ 25.6
7)กุ้งแช่เย็นแช่แข็ง GSP ร้อยละ 4.2 MFN ร้อยละ 12
8)อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปประเภทปลา GSP ร้อยละ 9-20.5 MFN ร้อยละ 12.5-24 และ
13)อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูปประเภทกุ้ง GSP ร้อยละ 7 MFN ร้อยละ 20
ด้านภาคเอกชนมีความกังวลกับการถูกตัดสิทธิพิเศษ GSP ในช่วงนี้ก่อนที่จะถูกยกเลิกสิทธิพิเศษทั้งหมดในปี 2558 โดยเฉพาะอย่างยิ่งในกลุ่มรถยนต์-กุ้ง และสับปะรดกระป๋อง โดยนายอดิเรก ศรีประทักษ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) หรือ CPF กล่าวว่า CPF
ล่าสุดมีรายงาน ข่าวเข้ามาว่า กลุ่ม CP ต้องการให้รัฐบาลเปิดการเจรจาเขตการค้าเสรี (FTA) กับ สหภาพยุโรปทันที หลังจากที่ล่าช้ามาไม่ต่ำกว่า 3 ปีจากเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมือง เนื่องจากภาคเอกชนมีความเชื่อว่า ในระหว่างที่มีการเจรจา FTA ประเทศไทยสามารถส่งออกสินค้าโดยเฉพาะ กุ้งต้ม เข้าไปจำหน่ายในช่วงเปลี่ยนผ่านจากการได้รับสิทธิพิเศษ GSP มาเป็น FTA ได้อยู่ หรือเท่ากับมีเวลาส่งออกกุ้งต้มภายใต้ GSP ต่อไปได้อีก 18 เดือนภายใต้ Product Graduation หรืออีก 3 ปีภายใต้เกณฑ์ใหม่(Upper-Middle Income)
"ความจริงทาง CPF มีการเตรียมการไว้หมดแล้ว หากถูกตัดสิทธิพิเศษ GSP รายการกุ้งต้มสุก เราก็พร้อมที่จะส่งกุ้งดิบเข้าไปแปรรูปเป็นกุ้งต้มในโรงงานที่สเปนหรือ โปรตุเกส ซึ่งมีการเช่าโรงงานและจ้างผลิตไว้เป็นที่เรียบร้อยแล้ว" แหล่งข่าวกล่าว
รายงาน ข่าวจากสำนักงานส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศในบรัสเซสล์ ระบุถึงผลกระทบที่อาจจะเกิดขึ้นกับสินค้ากุ้งสุกหรือกุ้งแปรรูปไทยที่ส่งออก ไปสหภาพยุโรปจะต้องเสียภาษีในอัตราปกติ 20% ขณะที่เวียดนาม อินโดนีเซีย และอินเดีย ทั้งสามประเทศยังคงได้รับการจัดกลุ่มให้อยู่กลุ่ม Lower-Middle Income จึงจะยังคงได้รับสิทธิพิเศษ GSP ต่อไป
ส่วนด้านการส่งออกรถยนต์ไปยังสหภาพยุโรป ซึ่งจะต้องถูกตัดสิทธิพิเศษ GSP เหมือนกับกุ้งนั้น นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย และประธานกลุ่มอุตสาหกรรมยานยนต์แห่งประเทศไทย กล่าวว่า อัตราภาษีนำเข้ารถยนต์ที่ผลิตจากประเทศไทยเพื่อส่งเข้าไปจำหน่ายในยุโรปจะ ถูกเก็บภาษีในอัตราที่สูงขึ้นส่งผลให้ราคาจำหน่ายรถยนต์ต้องปรับราคาขึ้นตาม ไปด้วยอย่างเเน่นอน
ด้านนายบุญทรง เตริยาภิรมย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศ เตรียมเปิดการเจรจาความตกลงเขตการค้าเสรี
ระหว่างไทย-สหภาพยุโรป (FTA ไทย-อียู)ให้ได้ภายในปีนี้ เพื่อให้ทันต่อการระงับสิทธิพิเศษ GSP ของสหภาพตามหลักเกณฑ์ใหม่ (Upper-Middle Income)ในอีก 3 ปีข้างหน้า โดยสหภาพยุโรปจะให้เวลาปรับตัวจนถึงสิ้นปี 2557 และจะตัดสิทธิ์ทั้งหมดประเทศในปี 2558
ขณะ ที่ นายร็อลฟ-ดีเลอร์ ดาเนียล ประธานสมาคมศูนย์ส่งเสริมธุรกิจยูโรเปียน-อาเซียน หรือ EABC กล่าวว่า ประเทศไทยจะได้รับผลกระทบอย่างมากเพราะ ไทยเป็นประเทศที่ใช้สิทธิ GSP สูงมาก ดังนั้น FTA ไทย-ยุโรป จึงเป็นเรื่องสำคัญมาก "มาตรการเดียวที่นักลงทุนยุโรปในไทยพยายามผลักดันเพื่อรองรับ GSP ที่จะหมดลงคือ พยายามเร่งให้เกิดการเจรจา FTA ไทย-ยุโรป โดยไม่ใช่ผลักดันแต่เพียงภาครัฐของไทย แต่เราเองก็ผลักดันภาครัฐของสหภาพยุโรปในอีกทางหนึ่งด้วย ขณะนี้ผลเป็นที่น่าพอใจ เพราะทั้ง 2 ฝ่ายเริ่มเปิดเจรจาอีกครั้ง"
*******************************
ข่าวที่เกี่ยวข้อง- ธปท.สั่งแบงก์สำรองเพิ่ม รับมือวิกฤติเศรษฐกิจ
- วิกฤติเศรษฐกิจที่ยุโรปยังไม่จบสิ้ิน...ไซปรัสยื่นขอรับความช่วยเหลือจากอียูเป็นรายที่ห้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น