วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

>> แท็กซี่เตรียมบุก คค. ถามความคืบหน้าการปรับขึ้นราคา


13 พ.ค, 2555 : http://www.talkystory.com/?p=34374


นายวิฑูรย์ แนวพานิช ประธานกรรมการสหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด และเครือข่ายสหกรณ์แท็กซี่ในเขตกรุงเทพมหานคร เปิดเผยถึงเรื่องโครงการยกเครื่องแท็กซี่ไทย ว่า ถือเป็นโครงการที่ดี เพราะโครงการดังกล่าวนั้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อพัฒนาบริการและคุณภาพของรถแท็กซี่ให้ดีขึ้นกว่าปัจจุบัน หลังจากที่ไม่ได้มีการพัฒนามากว่า 20 ปีแล้ว

อีกทั้งยังเป็นโครงการที่เคยเสนอให้กับกระทรวงคมนาคมเพื่อพัฒนาคุณภาพของรถแท็กซี่ด้วย ส่วนโครงการเชื่อมต่อข้อมูลของคนขับรถแท็กซี่ ระหว่างกรมการขนส่งทางบก และสหกรณ์รถแท็กซี่ทั่วประเทศนั้น นอกจากข้อมูลของคนขับรถแท็กซี่แล้ว ควรมีข้อมูลของรถแท็กซี่ ช่วงเวลาไหนใครเป็นคนขับด้วย

อย่างไรก็ตาม ประธานสหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด กล่าวว่า ในต้นสัปดาห์หน้าจะเดินทางเข้ากระทรวงคมนาคม เพื่อทวงถามความชัดเจนเรื่องการปรับอัตราค่าโดยสารรถแท็กซี่

ข่าวโดย: http://www.tnnthailand.com/

**************************************

2944 ศูนย์การค้าไดร้ฟอิน ซอยลาดพร้าว 130 ถนนลาดพร้าว แขวงคลองจั่น เขตบางกะปิ กรุงเทพฯ
โทร : 0-2377-3832,  0-23773833    

สหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด

 สหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด ตั้งขึ้นตามนโยบายของกระทรวงมหาดไทย ที่กำหนดให้รถยนต์แท็กซี่ต้องประกอบการโดยบริษัทหรือสหกรณ์ เพื่อให้มีการรับผิดชอบ ประชาชนผู้ให้บริการและตัวคนขับแท็กซี่ เมื่อเกิดอุบัติเหตุคู่กรณีได้รับการชดใช้ค่าเสียหายตามกรมธรรม์ประกันภัยที่ระบุไว้ จึงได้ออกกฎกระทรวงมหาดไทย ฉบับที่ 34 ปี พ.ศ. 2513 ได้มีการขยายเวลาการบังคับใช้กฎกระทรวงฉบับนี้ออกไปจนกระทั่ง เดือนเมษายน พ.ศ. 2519 กระทรวงมหาดไทย ได้ประกาศใช้กฎกระทรวงดังกล่าว (แต่เดิมมีรถยนต์แท็กซี่ 9,000 คัน กระทรวงมหาดไทยเพิ่มขึ้นอีก 4,500 คัน

     ปี พ.ศ. 2518 สหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด ได้ถือกำเนิดเมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2518 ได้รับการจดทะเบียนประเภทสหกรณ์บริการเดินรถยนต์แท็กซี่ใบสำคัญจดทะเบียนสหกรณ์ที่กพธ. 38/2518 จดทะเบียนข้อบังคับที่ บ. 015742 มีสมาชิกเมื่อก่อตั้งสหกรณ์จำนวน 1315 คน ทุนเรือนหุ้น หุ้นละ 100 .– บาท 1,572 หุ้น เป็นเงิน 157,200 บาท ( หนึ่งแสนห้าหมื่นเจ็ดพันสองร้อยบาทถ้วน ) เมื่อได้รับการสนับสนุนจากพรรคพลังใหม่ในสมัยนั้น โดยมี ดร.นายแพทย์กระแสร์ ชนะวงศ์ หัวหน้าพรรคและบรรดาผู้บริหารพรรคให้การสนับสนุนในการจัดตั้งสหกรณ์ครั้งแรก การจัดสรรป้ายทะเบียนจำนวน 679 ป้าย ได้เลขทะเบียนรถแท็กซี่ 2 ท – 2054 – 2ท – 2733 เมื่อวันที่ 3 มีนาคม 2519 โดยมีนายราชัย จารุภาพ เป็นประธาน นายประมูล เทนคำปราบ เป็นเลขานุการคนแรกของสหกรณ์ ส่วนผู้จัดการคนแรกคือ นายสมพล ฆารไสว

     เมื่อสหกรณ์ได้รับการจัดสรรป้ายทะเบียนรถยนต์แท็กซี่จากกระทรวงมหาดไทย จึงได้กำหนดสีของรถยนต์แท็กซี่ใช้สีแสดคาดดำเป็นสีของรถยนต์แท็กซี่ เมื่อสหกรณ์ได้รับการจัดสรรป้ายทะเบียนจากกระทรวงมหาดไทยแล้ว คณะกรรมการก็ได้ทำการจัดสรรป้ายทะเบียนให้กับสมาชิกคนละ 1 ป้าย

    ( ตามข้อบังคับปี พ.ศ. 2518 ) สมาชิกจัดหารถมาทำเป็นรถยนต์แท็กซี่ตามความสามารถ ส่วนสมาชิกที่มีเงินน้อยต้องการที่จะได้รถยนต์ใหม่ป้ายแดง สหกรณ์โดย คุณสุเทพ วงศ์คำแหง เป็นผู้ประสานงานกับบริษัทกมลสุโกศล จำกัด ซึ่งสมาชิกสหกรณ์ นำไปจำทะเบียนเป็นรถยนต์แท็กซี่ จึงเป็นตำนานเรื่องการให้เช่าซื้อรถยนต์แท็กซี่เป็นครั้งแรกของเมืองไทย เพราะยังไม่มีบริษัทจัดให้เช่าซื้อรถยนต์แท็กซี่มาก่อนเลย จึงเป็นตัวอย่างมาจนถึงทุกวันนี้ ส่วนผู้เช่าซื้อรถยนต์มือสองมาทำเป็นรถยนต์แท็กซี่ ก็จัดเช่าซื้อที่ บริษัท ก.แสงชัย ประมาณ 100 คัน

     การจัดให้เช่าซื้อรถยนต์แท็กซี่ในสมัยนั้น สหกรณ์เป็นผู้ทำสัญญาเช่าซื้อกับบริษัทให้เช่าซื้อสมาชิกเป็นผู้ค้ำประกันเช่นเดียวกับปัจจุบัน แต่สหกรณ์ได้ให้สมาชิกทำสัญญาเช่าซื้อกับสหกรณ์และหาคนค้ำประกันเพื่อป้องกันไว้อีกชั้นหนึ่ง สัญญาเช่าซื้อส่วนใหญ่ทำสัญญา 44 เดือนๆ ละ 3,335 บาท มีเงินดาวน์ประมาณ 30,000 บาท ปีพ.ศ. 2542 สหกรณ์ได้ย้ายที่ทำการไปเช่าอาคารพานิช 3 ชั้นครึ่ง เดือนละ 30,000 บาท รวมค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ตกประมาณเดือนละ 5,000 บาท ตั้งอยู่ตลาดแฮปปี้แลนด์สถานที่แห่งนี้ สหกรณ์ได้จัดให้มีอู่ซ่อมรถยนต์ จัดให้มีรถแท็กซี่ให้เช่าโดยการนำป้ายทะเบียนรถยนต์แท็กซี่ 2ท ที่สมาชิกยอมรับให้บริษัทกมลสุโกศลยึดรถไป สหกรณ์ฯ ไปไถ่ถอนนำมาให้เช่า นำป้ายทะเบียนรถแท็กซี่ที่หายสาปสูญ นำมาจัดซื้อรถยนต์มาทำเป็นรถแท็กซี่ให้เช่าจำนวน 6 คัน นำรถยนต์ของสมาชิกที่เป็นลูกหนี้สหกรณ์ฯ แต่ไม่สามารถผ่อนชำระได้นำมาให้เช่า เพื่อเก็บค่าเช่าชำระหนี้ ต่อมาได้ปรับเปลี่ยนให้สมาชิกเช่าซื้อโดยแยกให้แต่ละกลุ่มสมาชิกกลุ่มละ 2 คัน นำไปให้สมาชิกในกลุ่มเช่าซื้อกับสหกรณ์ฯ และกลุ่มต่างๆ ร่วมกันส่งตัวแทนเข้าเป็นกรรมการบริหารสหกรณ์ ทำให้เกิดความสามัคคี ในการดำเนินกิจการของสหกรณ์ฯ ตั้งแต่นั้นมา

    ปี พ.ศ. 2530 คณะกรรมการได้จัดซื้อที่ทำการสำนักงานของสหกรณ์แห่งใหม่ เป็นอาคารพานิช 4 ชั้นครึ่ง ราคา 680,000 บาท ที่ศูนย์การค้าไดรฟ์อิน (ที่อยู่ปัจจุบัน) โดยวิธีขอกู้เงินจากบริษัทเบลล์เซอร์วิสลิชซิ่ง จำกัด จำนวน 650,000 บาท ทำสัญญาผ่อนชำระ 5 ปี เมื่อสหกรณ์ฯ จัดซื้อที่ทำการสำนักงานแห่งใหม่แล้วได้ทำการซ่อมแซมตกแต่งโดยใช้เงินของสหกรณ์ที่มีอยู่และลูกหนี้ของสหกรณ์ที่ค้างชำระได้ ขายรถยนต์หรือขายป้ายแท็กซี่ ซึ่งมีราคาสูงเฉพาะป้ายราคา 3 – 4 แสนบาทได้เงินมาชำระหนี้ให้ สหกรณ์ฯ จนทำให้สหกรณ์ฯสามารถนำเงินไปชำระหนี้เงินกู้ที่นำมาซื้ออาคารสำนักงานได้ทั้งหมดภายในระยะเวลา 3 – 4 เดือน เท่านั้น จึงเป็นอันว่าสหกรณ์ฯ ได้มีที่ทำการเป็นของตนเอง ได้ทำพิธีเปิดสำนักงานอย่างเป็นทางการเมื่อวันพุธที่ 21 มกราคม 2531 โดยเรียนเชิญอธิบดีกรมส่งเสริมสหกรณ์ (นายทรวยศ นาคชำนาญ)เป็นประธานและท่านสหกรณ์จังหวัดนายประเจิด เย็นบำรุง มาร่วมงาน ประธานฝ่ายสงฆ์หลวงพ่อคูณปริสุทโธ ได้เจิมป้ายชื่อสหกรณ์ พร้อมกับแขกผู้มีเกียรติจากผู้นำสหกรณ์แท็กซี่สหกรณ์ สามล้อ และเจ้าของอู่แท็กซี่ได้มาร่วมพิธีเปิดเป็นจำนวนมาก สหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด ได้เจริญรุ่งเรืองตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา จนถึงปัจจุบันนี้ ปี 2534 ป้ายทะเบียนรถยนต์แท็กซี่ได้เปิดอย่างเสรีในปี พ.ศ. 2535

    เนื่องจากรัฐบาลได้เปิดให้มีการจดทะเบียนรถยนต์แท็กซี่มิเตอร์ ได้อย่างเสรี ตั้งแต่ วันที่ 22 พฤษภาคม 2535 เป็นต้นมา ทำให้มีการจดทะเบียนรถยนต์แท็กซี่มิเตอร์เป็นจำนวนมากทั้งรถแท็กซี่ที่เป็นของนิติบุคคล และแท็กซี่บุคคล (เขียว – เหลือง) ได้จดทะเบียนไปแล้ว 30,000 คัน จึงทำให้มีการแข่งขันการทำมาหากินของคนขับรถแท็กซี่อย่างมาก จำเป็นที่จะต้องจัดหาบริการแบบใหม่ๆให้กับสมาชิกของสหกรณ์

    ปี พ.ศ. 2536 สหกรณ์แท็กซี่สยาม จำกัด จึงได้จัดโครงการติดโทรศัพท์ในรถยนต์แท็กซี่มิเตอร์ เพื่อบริการประชาชนผู้โดยสารในรถยนต์แท็กซี่ (ในขณะนั้นโทรศัพท์มือถือยังมีน้อย) โดยคิดราคาค่าโทร 3 นาทีแรก 20 บาท นาทีต่อไปนาทีละ 5 บาท วัตถุประสงค์เพื่อผู้โดยสารที่ใช้บริการ เมื่อลืมสิ่งของที่บ้านหรือที่ทำงานโทรศัพท์สอบถาม หรือเมื่อโดยสารในรถแท็กซี่เกิดรถติดไปไม่ทันนัดหมายเกรงว่าธุรกิจจะเสียหายสามารถใช้โทรศัพท์เปลี่ยนแปลงนัดหมายได้ ด้านบริการสังคม คนขับรถแท็กซี่เมื่อพบกับเหตุร้ายสามารถแจ้งเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทันที ทำให้ได้รับความสนใจจากประชาชนผู้ใช้บริการอย่างมาก สื่อมวลชนนำผลงานไปลงข่าวและให้สมญานามว่ารถแท็กซี่ไฮเทค

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น